สยามคือบ้านของเรา...อ่านแล้วจะรักเมืองไทย ไปแล้วจะรักเมืองตรัง
ทะเบียนรถ ตร. คือตรัง
ผมไม่แน่ใจว่ามีกี่คนอ่านหนังสือเล่มนี้หนังสือเล่มนี้ชื่อ"สยามคือบ้านของเรา" แปลจากหนังสือชื่อ Siam Was Our Home ซึ่งเขียนโดย Mary Bulkley Stanton ลูกสาวคนที่ 6 ของ Edna Bruner Bulkley Mary เขียนหนังสือเล่มนี้เพราะพี่ชายบอกว่า พบบันทึกและภาพที่แม่(แหม่มเอ็ดน่า) ถ่ายภาพและเขียนถึง"สยาม"ในช่วงที่เธอมาอยู่เมืองไทย โดยเธอมาสมัยรัชกาลที่ 5 และมีชีวิตอยู่ในประเทศสยามถึง 5 แผ่นดิน โดยเธอเล่าถึงชีวิตของเธอตั้งแต่ออกเดินทางมาถึงประเทศสยาม มาสอนที่โรงเรียนวังหลัง (ปัจจุบันคือโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย) แล้วย้ายไปสอนที่จังหวัดเพชรบุรี (โรงเรียนที่เธอสอนปัจจุบันคือโรงเรียนอรุณประดิษฐ) จากนั้นเธอแต่งงานแล้วย้ายไปมีครอบครัวและช่วยสามีอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดตรัง ในหนังสือเล่มนี้ แหม่มยังได้กล่าวถึงบุคคลสำคัญมากมาย ทั้งพระมหากษัตริย์ไทยหลายรัชกาล พระธิดาในพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ปลัดเมืองเพชรบุรี สมุหเทศาภิบาลภาคใต้ มิสโคล ครูใหญ่โรงเรียนวังหลังในสมัยนั้น ดร.เอกิ้น ผู้ก่อตั้งและครูใหญ่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน คุณหมอเนลสัน เฮส์ แพทย์ใหญ่ประจำกรมการแพทย์ทหารเรือไทย ไปจนถึงขุนโจรชื่อดังในบทบาทนอกตำราประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิด เธอเล่าทุกอย่างได้ดี ความรักใน"สยาม"ของเธอ ทำให้เธอตัดสินใจอยู่ที่"สยาม"และเขียนบันทึกจนกลายเป็นหนังสือชื่อ Siam Was Our Home นั่นแหละ มีคนบอกว่า แหม่มเอ็ดน่า มาอยู่เมืองไทยสมัยเดียวกับ"แหม่มแอนนา" คนเขียนเรื่อง The King and I แต่ทำไมเรื่องราวของแหม่มทั้ง 2 คนถึงแตกต่างกันราวกับคนละยุค คนละสมัย และคนละประเทศ นี่คือข้อความที่ Edna Bruner Bulkley บันทึกไว้ เมื่อเธอแต่งงานกับคุณหมอชื่อ Dr. L.C. Bulkley และได้ย้ายไปอยู่ในจังหวัดตรัง สำหรับความเกี่ยวข้องของแหม่มเอ็ดน่าและสามี จากประวัติ"คริสตจักรตรัง" ผมขอสรุปว่า จังหวัดตรังเป็นหัวเมืองอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย มีประชากรหลายพวกหลายเหล่ามาอาศัยอยู่ ทั้งคนอินเดีย มาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามได้อยู่รวมตัวกันเป็นหมู่บ้านตามอำเภอต่างๆ มีสุเหร่าหลายแห่ง และคนจีนที่เดินทางเรือจากประเทศจีนเข้ามาทางแม่น้ำตรังมาขึ้นที่ตำบลแห่ง หนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียก "ท่าจีน" ก่อนหน้านั้น นอกจตากพุทธและอิสลามแล้ว ยังไม่มีการเผยแพร่คริสต์ศาสนา จนกระทั่ง Mr. John Carrington ซึ่งทำงานกับสมาคมพระคริสตธรรมอเมริกัน (Ameriean Bible) เดินทางมาจังหวัดตรังในปีค.ศ. 1905 และเมื่อ Dr. & Mrs.Gugene P. Dunlop มาเที่ยวจังหวัดตรัง ก็ได้รับมอบเงิน 3,000 ดอลล่าห์ จากข้าหลวงเมืองตรังเพื่อสร้างโรงพยาบาลทับเที่ยง จังหวัดตรัง Dr. G.P. Dunlop จึงมีเสนอให้คณะมิชชั่นนารีมาเปิดสถานประกาศที่ตำบลทับเที่ยง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการประกาศคริสต์ศาสนาในจังหวัดตรังโดยมิชชั่นนารี ชาวอเมริกัน และมี Dr. L.C. Bulkley มาประจำสถานประกาศและเตรียมสร้างโรงพยาบาลทับเที่ยง นั่นคือจุดเริ่มต้นที่"แหม่มเอ็ดน่า"มาอยู่เมืองตรัง เพราะสามีอยู่เมืองตรัง และเธอหลงรักเมืองที่เธอเขียนว่า "ฉันคิดว่า..เมืองตรังเป็นเมืองที่สวยที่สุดในสยาม"
คุณชวน..วันเป็นประธานเปิดตัวหนังสือเล่มนี้
พี่มะอึกกับท่านผู้ว่าฯ
ผมเชื่อว่าคนที่ไปร่วมกันครั้งนี้"อิ่มท้อง"กับอาหารเช้าและเที่ยง ที่มี"หมูย่าง"เป็นตัวประกอบหลัก และ"อิ่มตา"กับการได้แวะชมสถานที่สำคัญบางแห่ง ซึ่งน่าเสียดายที่สภาพดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจ จึงอดไปหลายจุด เช่น ยางพาราต้นแรกที่ผมเขียนถึง อย่างไรก็ตาม ทริปโอเคก็ถือว่า"โชคดี" ที่ได้มีโอกาสเข้าไปพบ "ธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล" ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะ"รุ่นพี่"ของพี่มะอึก และได้ซึมทราบว่า"ตรัง"ถูกยกเป็นเมืองที่(คน)มีความสุขมากที่สุด ผมก็เหมือนพี่มะอึก ...นั่งอ่านที่ทุกคนเขียนถึงก็มีความสุข ขนาดไปแค่วันสองวัน ยังมีความสุขขนาดนี้ ลองนึกดูสิ ถ้าอยู่นานจะมีความสุขขนาดไหน ไม่เชื่อ...กลับไปอ่านหนังสือที่ผมเขียนถึง ที่คุณชวน หลีกภัย เป็นประธานเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ ยัง"ชอบ"ถึงขนาดมีคึนบอกว่า ท่านซื้อถึง 400 เล่มเพื่อไปแจกคนอื่นให้รู้ว่า"เมืองตรัง"...น่าอยู่แค่ไหน |
โดย ลูกเสือหมายเลข9 |
วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557
สยามคือบ้านของเรา...อ่านแล้วจะรักเมืองไทย ไปแล้วจะรักเมืองตรัง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น