วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

ทำไมค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของเด็กไทยลดลง ?

ทำไมค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของเด็กไทยลดลง ?
      เป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อมีการสำรวจว่า ค่าเฉลี่ยของเด็กไทยในประเทศ มีค่าเฉลี่ยของการอ่านหนังสือที่น้อยลงเป็นอย่างมาก เพราะอะไร? การศึกษาไม่สนับสนุนเด็กไทยเกี่ยวกับการอ่านหรือ ทั้งที่เห็นโฆษณามากมายเกี่ยวกับวันหนังสือ หรือห้องสมุดต่างๆที่เกิดขึ้นมากมาย แม้กระทั่งห้องสมุด ออนไลน์ที่สามารถทำให้เด็กอย่างเราค้นหาหนังสืออ่านได้ตลอดเวลาที่ไม่จำกัด หรืออาจเป็นเพราะเทคโนโลยี การสื่อสาร ต่างๆเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กมากขึ้น คาดว่าหนังสือมาถูกแทนที่ด้วย โทรศัพท์ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ จากการอ่านหนังสือของเด็กจึงน้อยลง หรือจะเป็นค่านิยมแบบผิดๆที่ปลูกฝังให้เด็กเข้าใจว่า หนังสือล้าสมัย แท็บเล็ต(Tablet) สิ เป็นสิ่งที่ดีกว่า จึงทำให้หนังสือเริ่มอยู่ห่างมือเด็กไทยออกไป การอ่านหนังสือของเด็กไทยที่น้อยลงจะโทษการเปลี่ยนแปลงของสังคมอย่างเดียวคง ไม่ถูกต้องการที่เด็กจะเรียนรู้หรือได้พฤติกรรมบางส่วนมานั้นอันดับแรก การลอกเลียนแบบพฤติกรรมนั่นคือผู้ใหญ่ในครอบครัว เนื่องจากในสภาวะสังคมในตอนนี้มีการเกิดช่องว่างระหว่างเด็กและผู้ใหญ่เป็น อย่างมากเมื่อสิ่งต่างๆที่เข้ามาจูงใจเด็กมีมากกว่า และใกล้ตัวกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญในการทำให้หนังสือหมดค่าลงไปไม่ใช่ว่าแต่เด็ก ไทยเท่านั้นที่อ่านหนังสือน้อยลง เพราะสถิติที่ออกมาใหม่เป็นการเก็บรวบรวมจากคนไทยทั่วประเทศพบว่า คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 8 บรรทัดซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน มาเลเซีย เวียดนาม อ่านหนังสือ 5 เล่ม ต่อปี
      เมื่อค่าเฉลี่ยเป็นที่น่าตกใจขนาดนี้เราจะไปโทษแต่เด็กอย่างเดียวมันก็ไม่ สมควรเพราะผู้ใหญ่ก็ยังไม่ค่อยจะอ่านหนังสือกันเลย แต่ในความน่ากลัวก็มีสิ่งดีอยู่ว่าค่าเฉลี่ยของการรู้หนังสือของคนไทยสูง ขึ้น พอได้เข้าเรียนแล้วการแข่งขันก็สูงขึ้นยิ่งสมัยก่อนใช้การสอบแบบเอ็นทรานซ์ ใครได้คะแนนดีก็จะได้เรียนมหาลัยดีๆ ทุกอย่างหรือเทคโนโลยีที่เข้ามาในชีวิตตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายไปสะ ทุกอย่างเกี่ยวกับเด็ก หนังสือเลยห่างออกไป เมื่อก่อนคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ห่างมือคนไทยเป็นอย่างมาก  แต่ตอนนี้แม้กระทั่งเด็ก ป.1 มีโทรศัพท์ใช้กันหมด แล้วไม่ใช่รุ่นทั่วไปธรรมดานะ แต่เป็นรุ่นที่มีฟังก์ชั่นครบครันดูเหมือนจะไฮเทคกว่ารุ่นเราๆสะอีกที่ได้ กล่าวไป ไม่ใช่ว่าการใช้เทคโนโลยีของเด็กไทยจะดีเสมอไปแต่ตราบใดที่ผู้ใหญ่ ไม่เกิดการปิดกั้นช่องว่างระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ปิดกั้นการเรียนรู้ของตัวเองให้จมปรักอยู่กับสิ่งที่เขียนอยู่ในกระดาษ ผู้ใหญ่ก็คงจะไล่ตามเด็กสมัยนี้ไม่ทัน จากการเดินทางของเทคโนโลยีที่รวดเร็วกว่าการยกหูโทรศัพท์ เมื่อเป็นเช่นนี้ถ้าผู้ใหญ่ไม่หัดที่จะเรียนรู้เรื่องของเทคโนโลยีแล้วจะมี วิธีการใดที่จะช่วยเด็กๆให้พ้นจากอันตรายเหล่านี้ได้  เมื่อเราอ่านแล้วเกิดคำถาม เกิดความสงสัย เราสามารถหยุดอ่านบรรทัดนั้นได้แล้ว คิดต่อว่าสิ่งที่เราอ่านนั้นใช่หรือไม่ใช่เป็นจริงหรือไม่เป็นจริงตามที่ผู้ เขียนนั้นเขียนไว้
      การอ่านช่วยในการสร้างสมาธิได้ดี คนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นคนที่มีสมาธิดี การอ่านจึงเป็นการฝึกสมาธิอย่างหนึ่งเป็นการฝึกสมาธิที่ได้ทั้งองค์ความรู้ ความคิด และข้อมูลต่างๆในเวลาเดียวกัน การอ่านช่วยในการพัฒนาตนเองอีกด้วย คนที่ชอบเรียนรู้ชอบที่จะพัฒนาตนเองการอ่านเป็นสิ่งที่ช่วยคุณได้ดีเหมือน กันในเรื่องนี้เพราะการอ่านจะช่วยให้เราเกิดทักษะต่างๆมากมายทั้งนี้การอ่าน ยังให้ทั้งความบันเทิงความเพลิดเพลิน การอ่านหนังสือตลก หนังสือบันเทิง หนังสือนิยายจะช่วยเพิ่มความเพลิดเพลินได้อีกวิธีหนึ่ง การอ่านมาพร้อมกันการสร้างแรงบันดาลใจเสมอ คนที่ประสบความสำเร็จมักชอบอ่านหนังสือ การอ่านทำให้เกิดความคิด เกิดแรงบันดาลใจ เกิดความมานะที่จะต่อสู้สิ่งต่างๆ เมื่อเราเห็นประโยชน์ของการอ่านหนังสือแล้วแต่ถามว่าทำไมคนไทยจึงไม่ชอบ อ่านหนังสือ อาจเป็นเพราะหลายคนคิดเรื่องเกี่ยวกับหนังสือไม่ถูกต้อง คุณประโยชน์ของการอ่านจึงเป็นการเปิดหน้าต่างให้เราพบโลกที่กว้างขึ้น เราสามารถเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณี ความเป็นอยู่ เรื่องราว ของประเทศต่างๆ ของคนอีกซีกหนึ่งของโลกก็ด้วยการอ่าน จงอ่านหนังสือมากๆแล้วชีวิตของท่านจะเปลี่ยนแปลง
<พัชรณัฏฐา  พรพระพรหม>
เอกสารอ้งอิง
เผยเด็กไทยอ่านหนังสือน้อยลง! : http://www.bookandreading.com/thaireading/


เครดิต http://www.dek-d.com/board/view/3054622/
ที่มา : http://www.happyreading.in.th/article/detail.php?id=1690

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น